“แท้จริง ในหมู่คนที่เลวร้ายที่สุดคือผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่วันอวสานโลกเกิดขึ้น และบรรดาผู้ที่ใช้สุสานเป็นมัสยิด” อัลลอฮ์จะทรงให้เขาได้เข้าสวรรค์ไม่ว่าเขาจะมีความดีกี่มากน้อยก็ตาม ผู้ใดที่ประวิงเวลาให้กับลูกหนี้ที่ขัดสนหรือยกหนี้ให้แก่เขา อัลลอฮ์จะทรงให้เขาอยู่ใต้ร่มเงาบัลลังก์ของพระองค์ในวันฟื้นคืนชีพ ซึ่งเป็นวันที่ไม่มีร่มเงาใดนอกจากร่มเงาของพระองค์” แท้จริงพวกเจ้าจะได้เห็นพระเจ้าของพวกเจ้าเหมือนที่พวกเจ้าได้เห็นพระจันทร์ดวงนี้ และจะไม่มีอุปสรรคในการมองเห็นพระองค์ แท้จริงแล้วสิ่งที่เราะสูลุลลอฮ์กำหนดให้เป็นสิ่งต้องห้าม(หะรอม)นั้น ก็เสมือนกับสิ่งที่อัลลอฮ์เองทรงกำหนดว่าเป็นสิ่งต้องห้าม “แท้จริง อัลลอฮ์จะทรงเรียกชายคนหนึ่งจากประชาชาติของฉันออกมาต่อหน้าผู้คนมากมายในวันกิยามะฮ์ หลังจากอัลลอฮ์สร้างสวรรค์และนรก พระองค์ได้ส่งมลาอิกะฮ์ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม “สิ่งแรกที่จะถูกตัดสินในหมู่ผู้คนในวันกิยามะฮ์คือเรื่องที่เกี่ยวกับการนองเลือด” แท้จริง ทั้งสองคนที่อยู่ในหลุมสองหลุมนี้กำลังถูกทรมาน และทั้งสองคนไม่ได้ถูกทรมานเพราะสิ่งใหญ่โตอะไร" หนึ่งในสองคนนี้มักจะไม่ระวังตัวเองจากการปัสสาวะ ส่วนอีกคนมักเดินใส่ร้ายผู้อื่น แท้จริง อัลลอฮ์จะไม่อธรรมต่อผู้ศรัทธาแม้จะเป็นความดีแค่หนึ่งเดียว โดยพระองค์จะตอบแทนให้บนโลกนี้ และให้การตอบแทนในวันอาคิเราะฮ์ แท้จริงส่วนหนึ่งของสัญญาณแห่งกาลอวสานนั้นคือ ความรู้จะถูกนำกลับไป และความโง่เขลาจะมาแทนที่ การละเมิดทางเพศจะแพร่ระบาด น้ำเมาจะถูกดื่มอย่างแพร่หลาย จำนวนผู้ชายจะลดน้อยลง จำนวนผู้หญิงจะเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งจำนวนผู้หญิงมีมากถึงห้าสิบคนที่มีผู้ดูแลหนึ่งคน วันสิ้นโลกจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าชายคนหนึ่งจะเดินผ่านหลุมฝังศพของชายอีกคนหนึ่งแล้วพูดว่า: "ฉันหวังว่าฉันจะอยู่ในที่ของเขา วันอวสานโลกจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าพวกเจ้าจะทำสงครามกับชาวยิว จนกระทั่งก้อนหินที่มีชาวยิวอยู่ข้างหลังจะพูดขึ้นว่า: โอ้ มุสลิมเอ๋ย มีคนยิวอยู่ข้างหลังฉัน จงฆ่ามัน “ขอสาบานต่อพระองค์ผู้ซึ่งชีวิตฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ อีกไม่นานบุตรของมัรยัมจะลงมาหาพวกเจ้าในฐานะผู้นำที่เที่ยงธรรม ท่านจะหักไม้กางเขน ฆ่าหมู และเก็บญิสยะฮ์(ภาษีจากผู้ไม่ศรัทธา) และจะมีเงินทองที่ท่วมท้นจนไม่มีใครจะรับมัน” “วันกิยามะฮ์จะยังไม่อุบัติขึ้นจนกว่าดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก เมื่อมันขึ้นมาทางทิศตะวันตกแล้วมวลมนุษย์จะกลายเป็นผู้ศรัทธามั่น วันกิยามะฮ์จะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าเวลาจะเข้าใกล้กัน “อัลลอฮ์จะทรงกำแผ่นดินและทรงม้วนชั้นฟ้าทั้งหลายด้วยมือขวาของพระองค์ แล้วพระองค์จะตรัสว่า “ฉันคือกษัตริย์ บรรดากษัตริย์ในโลกนี้อยู่ที่ไหน? “อ่างเก็บน้ำของฉันนั้นกว้างเทียบเท่าการเดินทางถึงหนึ่งเดือน น้ำของมันมีสีขาวยิ่งกว่าน้ำนม มีกลิ่นหอมยิ่งกว่าชะมดเชียง ฉันจะอยู่ที่อ่างเก็บน้ำเพื่อที่ฉันจะได้ดูว่ามีใครบ้างในพวกท่านที่จะมาหาฉัน แต่บางคนจะถูกกันไม่ให้เข้าถึงฉัน ดังนั้นฉันจะกล่าวว่า "ข้าแต่พระผู้อภิบาลของฉัน พวกเขาเป็นของฉันและเป็นประชาชาติของฉัน ขอสาบานต่อผู้ที่ชีวิตของมูฮัมมัดอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์แท้จริงถ้วยของมันจะมีจำนวนมากกว่าดวงดาวในท้องฟ้าและดาวเคราะห์ “ความตายจะถูกนำมาโดยถูกจำแลงเป็นแกะอ้วนตัวหนึ่ง “ไฟที่พวกเจ้าใช้กันอยู่นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากเจ็ดสิบส่วนของความร้อนจากไฟนรกญะฮันนัม ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้เล่าแก่พวกเรา และท่านเป็นคนสัตย์จริงและถูกรับรองในความสัตย์จริงนั้น โดยกล่าวว่า “แท้จริงการบังเกิดของพวกเจ้าแต่ละคนนั้น จะถูกรวบรวมอยู่ในครรภ์มารดาเป็นเวลาสี่สิบวันในรูปของน้ำอสุจิ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวถึงบางสิ่ง และกล่าวว่า: "นั่นคือเวลาที่ความรู้จะหายไป ขอบเขตที่พวกเขาทรยศต่อเจ้า ไม่เชื่อฟังเจ้า และโกหกเจ้านั้นวัดกันที่ว่าเจ้าลงโทษพวกเขามากเพียงใด พระองค์ผู้ทรงให้พวกเขาสามารถเดินด้วยเท้าได้บนโลกดุนยานี้ จะไม่ทรงสามารถทำให้พวกเขาเดินด้วยใบหน้าในวันกิยามะฮ์ได้อย่างนั้นหรือ? (แล้วในวันนั้นพวกเจ้าจะถูกสอบถามเกี่ยวกับความโปรดปรานที่ได้รับ ในโลกดุนยา) “ในยุคสุดท้ายของประชาชาติของฉัน จะมีมนุษย์กลุ่มหนึ่งซึ่งพวกเขาจะเล่าให้พวกเจ้าฟังในสิ่งที่พวกเจ้าและบรรพบุรุษของพวกเจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ดังนั้นจงระวังตัวพวกเจ้า และจงห่างไกลจากพวกเขา” “เมื่อพวกเจ้าได้ยินผู้ที่ประกาศเรียกสู่การละหมาด ก็จงกล่าวตามอย่างที่เขากล่าว แล้วจงทำการเศาะละวาตต่อฉัน