عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رضي الله عنه عَنِ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم قَالَ:
«لَا يَقْبَلُ اللهُ صَلَاةَ أَحَدِكُمْ إِذَا أَحْدَثَ حَتَّى يَتَوَضَّأَ».

[صحيح] - [متفق عليه]
المزيــد ...

จากท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า:
"อัลลอฮ์จะไม่ทรงตอบรับการละหมาดของคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้า ในขณะที่เขามีหะดัษ จนกว่า เขาจะอาบน้ำละหมาด"

เศาะฮีห์ - รายงานโดย อัลบุคอรีย์ และมุสลิม

คำอธิบาย​

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้อธิบายถึงเงื่อนไขประการหนึ่งสำหรับการละหมาดที่ถูกต้องคือความสะอาด ดังนั้นใครก็ตามที่ต้องการละหมาด เขาจะต้องทำการอาบน้ำละหมาดเสียก่อน หากเขาได้มีการกระทำสิ่งที่ทำให้น้ำละหมาดเสีย เช่น การถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ การนอนหลับ เป็นต้น

การแปล: อังกฤษ ฝรั่งเศส เนื้อหาภาษาสเปน ตุรกี อูรดู อินโดนีเซีย บอสเนีย รัสเซีย เบ็งกอล จีน เปอร์เซีย​ ตากาล็อก ภาษาฮินดี ภาษาเวียดนาม ภาษาสิงหล ภาษาอุยกูร์ ภาษาเคิร์ด ภาษาเฮาซา ภาษาโปรตุเกส ภาษามลยาฬัม ภาษาเตลูกู ภาษาสวาฮีลี ภาษาทมิฬ พม่า เยอรมัน ญี่ปุ่น ปุชตู อะซามีส อัลบาเนียน السويدية الأمهرية الهولندية الغوجاراتية الدرية
ดูการแปล

บทเรียนที่ได้รับจากฮะดีษ

  1. การละหมาดของผู้ที่มีหะดัษ จะไม่ได้รับการตอบรับ จนกว่าเขาจะทำการชำระด้วยการอาบน้ำ หากหะดัษนั้นเป็นหะดัษใหญ่ และอาบน้ำละหมาดหากเป็นหะดัษเล็ก
  2. การอาบน้ำละหมาด คือ ตักน้ำ กลั้วปาก แล้วบ้วนออกมา แล้วสูดน้ำเข้าจมูก ด้วยการสูดให้เข้าถึงข้างในจมูกแล้วสั่งออกมา จากนั้นล้างหน้า 3 ครั้ง แล้วล้างมือถึงข้อศอก 3 ครั้ง แล้วเช็ดให้ทั่วศีรษะหนึ่งครั้ง แล้วล้างเท้าพร้อมกับข้อเท้า 3 ครั้ง.