+ -

عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رَضيَ اللهُ عنه:
أَنَّهُ لَقِيَهُ النَّبِيُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي طَرِيقٍ مِنْ طُرُقِ الْمَدِينَةِ وَهُوَ جُنُبٌ، فَانْسَلَّ فَذَهَبَ فَاغْتَسَلَ، فَتَفَقَّدَهُ النَّبِيُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، فَلَمَّا جَاءَهُ قَالَ: «أَيْنَ كُنْتَ يَا أَبَا هُرَيْرَةَ؟» قَالَ: يَا رَسُولَ اللهِ، لَقِيتَنِي وَأَنَا جُنُبٌ فَكَرِهْتُ أَنْ أُجَالِسَكَ حَتَّى أَغْتَسِلَ، فَقَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: «سُبْحَانَ اللهِ، إِنَّ الْمُؤْمِنَ لَا يَنْجُسُ».

[صحيح] - [متفق عليه] - [صحيح مسلم: 371]
المزيــد ...

จากอบูฮุรัยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า:
อบูฮุรัยเราะฮ์ ได้เจอกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮ์ อลัยฮิ วะสัลลัม บนถนนสายหนึ่งของมะดีนะฮ์ ขณะที่เขาเป็นญะนาบะฮ์(คือยังไม่ได้อาบน้ำยกหะดัษใหญ่) ดังนั้นเขาจึงแอบออกไปอาบน้ำ ดังนั้นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮ์ อลัยฮิ วะสัลลัม จึงตามหาอบูฮุรัยเราะฮ์ ดังนั้นเมื่อเขามาถึง เขาก็กล่าวว่า “เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา อบูฮุรอยเราะห์?” เขากล่าวว่า: โอ้ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ท่านได้พบกับฉันในขณะที่ฉันอยู่ในสภาพที่ไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรม และฉันรู้สึกน่าเกลียดที่จะนั่งกับท่านจนกว่าฉันจะอาบน้ำ ดังนั้นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮ์ อลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า : «มหาบริสุทธิ์แด่พระเจ้า! ผู้ศรัทธาย่อมไม่เป็นนญิส (ไม่เป็นของไม่สะอาด)

[เศาะฮีห์] - [รายงานโดย อัลบุคอรีย์ และมุสลิม] - [เศาะฮีห์มุสลิม - 371]

คำอธิบาย​

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮ์ อลัยฮิ วะสัลลัม ได้พบกับอบู ฮุรัยเราะห์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ บนถนนบางสายในมะดีนะฮ์ ขณะที่เขาเป็นญะนาบะฮ์ (คือยังไม่ได้อาบน้ำยกหะดัษใหญ่) และด้วยความเคารพต่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮ์ อลัยฮิ วะสัลลัม เขาเกลียดการนั่งสนทนากับท่านในขณะที่เขาอยู่ในสภาพเช่นนั้น โดยคิดว่าเขาไม่บริสุทธิ์จึงแอบไปอาบน้ำชำระตัวแล้วกลับมานั่งสนทนากับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮ์ อลัยฮิ วะสัลลัม ท่านจึงถามว่าเขาไปไหนมา? ดังนั้นเขาจึงเล่าให้ท่านฟังเกี่ยวกับเรื่องของเขา และเขาเกลียดการนั่งกับท่านนบีในขณะที่เขาไม่บริสุทธิ์ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮ์ อลัยฮิ วะสัลลัม จึงประหลาดใจและพูดกับเขาว่า: ผู้ศรัทธาเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่โสโครกทุกกรณี ทั้งตอนที่ยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว

บทเรียนที่ได้รับจากฮะดีษ

  1. การอยู่ในญะนาบะฮ์นั้นเป็นที่ต้องห้ามจากการทำละหมาด สัมผัสอัลกุรอาน และอยู่ในมัสยิด แต่มันไม่ได้เป็นที่ต้องห้ามจากการนั่งร่วมกับชาวมุสลิมและพบปะพวกเขา และผู้ที่อยู่ในญะนาบะฮ์ก็ไม่ได้กลายเป็นผู้มีมลทินด้วยสิ่งนี้
  2. ความบริสุทธิ์ของผู้ศรัทธา ทั้งตอนเป็นและตาย
  3. การยกย่องคนมีคุณธรรม ความรู้ และความชอบธรรม และนั่งร่วมกับพวกเขาในทางที่ดีที่สุด
  4. เป็นที่สนับสนนุนให้ผู้ติดตามขออนุญาตจากผู้ที่ถูกตาม ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮ์ อลัยฮิ วะสัลลัม ได้ปฏิเสธการกระทำของอบูฮุรัยเราะห์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ที่ไปโดยท่านไม่รู้ว่าเขาไปไหน ทั้งนี้เพราะการขออนุญาต นั้นเป็นมารยาทที่ดีงาม
  5. คำว่า: "ซุบฮานัลลอฮ์" ความว่า: มหาบริสุทธิ์แห่งพระเจ้า ให้กล่าวไว้เมื่อมีความประหลาดใจ
  6. การที่มนุษย์สามารถพูดถึงสิ่งที่น่าอายเกี่ยวกับตนเองได้ หากมีจุดมุ่งหมายหรือผลประโยชน์ที่ดี
  7. ผู้ปฏิเสธศรัทธา (กาเฟร) เป็นนญิส (สิ่งไม่สะอาด) แต่ความไม่สะอาดของเขาเป็นเชิงนามธรรม เนื่องจากความสกปรกของหลักความเชื่อของเขา
  8. อัล-นะวาวีย์ กล่าวว่า: ในหะดีษบทนี้ยังมีมารยาทอีกประการหนึ่งคือ เมื่อนักวิชาการเห็นผู้ติดตามของเขากระทำสิ่งหนึ่งที่เขากลัวว่าอาจเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นักวิชาการผู้นั้นควรถามเขาเกี่ยวกับสิ่งนั้น และบอกให้เขารู้ถึงสิ่งที่ถูกต้อง พร้อมทั้งอธิบายบทบัญญัติของมันให้เขาเข้าใจ และอัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่ง
การแปล: อังกฤษ อูรดู เนื้อหาภาษาสเปน อินโดนีเซีย ภาษาอุยกูร์ เบ็งกอล ฝรั่งเศส ตุรกี รัสเซีย บอสเนีย ภาษาสิงหล ภาษาฮินดี จีน เปอร์เซีย​ ภาษาเวียดนาม ตากาล็อก ภาษาเคิร์ด ภาษาเฮาซา ภาษาโปรตุเกส ภาษาสวาฮีลี อะซามีส ภาษาโรมาเนีย ภาษาฮังการี الجورجية
ดูการแปล