+ -

عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ:
«لَا تَمْنَعُوا إِمَاءَ اللَّهِ مَسَاجِدَ اللَّهِ، وَلَكِنْ لِيَخْرُجْنَ وَهُنَّ تَفِلَاتٌ».

[حسن] - [رواه أبو داود] - [سنن أبي داود: 565]
المزيــد ...

จากอบูฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า:
“อย่าห้ามเหล่าผู้เป็นสาวของอัลลอฮ์เข้ามัสยิดของอัลลอฮ์ แต่จงให้พวกเธอออกไปในสภาพที่ไม่แต่งกลิ่นหอม”

[หะซัน] - [รายงานโดย อบูดาวูด] - [สุนันอบีดาวูด - 565]

คำอธิบาย​

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ห้ามผู้ปกครองของสตรีและผู้ที่รับผิดชอบต่อพวกนางจากการห้ามสตรีไปมัสยิด และได้สั่งให้สตรีทั้งหลายเมื่อออกจากบ้านจงออกไปโดยไม่ใส่น้ำหอมและไม่แต่งตัวอวดเครื่องประดับ เพื่อจะได้ไม่เป็นสาเหตุแห่งฟิตนะฮฺแก่บรรดาผู้ชาย

บทเรียนที่ได้รับจากฮะดีษ

  1. อนุญาตให้สตรีละหมาดในมัสยิดได้หากเธอปลอดภัยจากฟิตนะฮ์และออกไปโดยไม่ต้องประดับตกแต่งหรือน้ำหอม
  2. ใช้เป็นหลักฐานว่าผู้หญิงไม่ควรออกจากบ้านสามีโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากคำสั่งให้อนุญาตนั้นกำหนดให้สามีเป็นผู้อนุญาต
  3. ศาสนาอิสลามมีความห่วงใยต่อสตรีและไม่ได้ห้ามไม่ให้สตรีทำสิ่งที่อาจเป็นประโยชน์ต่อพวกเธอ เช่น การออกไปแสวงหาความรู้ เป็นต้น
  4. หลักฐานที่ชี้ว่าชายเป็นผู้ปกครองหญิงและดูแลเธอ
การแปล: เบ็งกอล ภาษาเวียดนาม ภาษาเคิร์ด ภาษาโปรตุเกส ภาษาดารี ภาษาฮังการี الجورجية المقدونية
ดูการแปล
ดูเพิ่มเติม